วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ว่ากันด้วยเรื่อง SSD (Solid State Drive)

 ว่ากันด้วยเรื่อง SSD (Solid State Drive )
      ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น 5-6 ปีก่อน สมัยที่ยังเขียนบททดสอบและบทความให้นิตยสารเล่มหนึ่ง เพื่อนผมที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มหาลัยก็ขนอุปกรณ์มาให้ทดสอบ(แบบว่าเยอะมาก -  -*)
แล้วก็ต้องขนขึ้นรถไฟฟ้ากลับ เฮ้อไม่ได้แคร์เพื่อนเลย และหนึ่งในนั้นก็คืออุปกรณ์เล็กๆ หน้าตาเหมือนฮาร์ดดิส แต่มันเบาดีจังว้า ก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร พอจนต้องเขียนเกี่ยวกับเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ ก็เอามานั่งดู บอกตรงๆ ว่านั่นคือครั้งแรกที่ผมได้จับ Solid State Drive ครั้งแรก โดยที่มันมานอนกองอยู่บ้านตั้งนานโดยไม่ตื่นเต้นอะไรเลย จนผมรู้จักมันแล้ว ถึงได้รู้ว่าไอ้ตัวเล็กๆในมือผมที่มีความจุเพียง 120G นั้นมีมูลค่าถึง 16,000 บาท (ราคา ณ ตอนนั้น) บอกตรงๆ ผมเริ่มขนลุก ส่วนการทดสอบในตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าผมถูกใจมาก ถึงขนาดที่ถอดฮาร์ดดิสของ Notebook ที่บริษัทให้ผมใช้ทำงานนั้น ออกและเอา SSD ยัดไปแทนเพื่อทดสอบการใช้งาน มันทั้งแปลกและน่าตื่นเต้นมาก แล้วก็เขียนบททดสอบได้แค่ "ครึ่งหน้า" บอกตรงๆตอนนั้นผมแทบจะไม่มีความรู้อะไรกับมันเท่าใหร่ จึงได้แต่ทำการทดสอบในเรื่องของการอ่านเขียน และอุณหภูมิของตัวมันขณะทำงานซึ่งทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสแบบที่เราใช้เดิมๆ เยอะมาก จะแย่ก็ตรงราคามันตอนนั้น แพงมากกกกกกกก และก็มีแค่นั้น 5555555+ 

มาว่ากันด้วยเรื่องของ SSD แล้ว..... มันต่างกับฮาร์ดดิสทั่วไปยังไง   นั่นสิ
       จริงๆ แล้วผมรู้พวกคุณก็รู้กันหมดแล้วแหละ เพียงแต่ว่า อยากเขียนไง เลยจะเล่าให้ฟังเพื่อบางคนที่ยังไม่รู้ซึ่งผมก็คิดว่าคงมีแหละ(มั้ง...) เอาล่ะ อย่างที่เรารู้ๆ กันกับฮาร์ดดิสในยุคปัจจุบันที่เราใช้ๆ กันอยู่นั้นมันเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แผ่นจานโลหะที่เคลือบบบบบบ ด้วยสารแม่เหล็ก(ไม่ใช่จานแม่เหล็กนะจ๊ะ) ในการเก็บข้อมูล และมีหัวอ่านที่แนบชิดกับจานนั้นเป็นตัวอ่านเขียนข้อมูลลงในจานโลหะนั่นเอง ส่วนหน้าตาของจานนั้นดูตามรูปได้เลย




ตรงกลางๆ กลมๆ นั่นแหละครับคือจานแม่เหล็ก 
ส่วนรูปนี้คือหัวอ่านของฮาร์ดดิสนั่นเอง
         
        คำถามคือ??? แล้วมันต่างจาก SSD ยังไง (นั่นสิ) เราก็จะมาว่ากันด้วยเรื่องของ SSD หลายคนอาจจะนึกไม่ออกง่าย งั้นผมให้นึกถึง Flash Drive ละกัน Flash Drive ที่พวกคุณใช้กันอยู่นั่นแหละครับ ถามมันเหมือนกันยังไงเราก็คงต้องมาว่ากันด้วยเรื่องของ Flash Drive กันก่อน 
Flash Drive นั้ ปัจจุบันใช้การเชื่อมต่อด้วย Port USB เป็นหลักและเก็บข้อมูลลงในหน่วยความจำชนิด NAND Flash ซึ่งไอ้เจ้า NAND Flash เนี่ยแหละครับที่มันถูกนำมาประยุกต์ใช้ใน SSD กันด้วยการเข้าถึงที่ค่อนข้าง มีเสถียรภาพและมีการแกว่งของข้อมูลในการอ่านเขียนที่น้อยกว่า แบบฮารืดดิสแบบจานมาก
ทำให้ SSD ถูกหลายคนมองว่าเป็นอนาคตของ Harddisk กันเลย (ในช่วง 5 - 6 ปีนั่นนะครับ แหะๆ) ใครอยากดูรูปก็ดูตามรุปเลยครับ
       แต่... เนื่องด้วยอย่างที่เราที่เกิดในช่วงๆนั้นทราบกัน ว่าแม้แต่ Flash Drive ก็ยังมีราคาแพงในความจุที่ไม่มาก (เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน ผมมี 64M ก็โคตรหล่ออ่ะ) จึงทำให้ SSD ไม่เป็นที่แพร่หลายนักเนื่องจากราคาค่าตัวที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสธรรมดาๆ ในราคาต่อ GB แต่อย่างที่เห็นในปัจจุบันครับ ราคาอุปกรณ์พวก Flash Drive นั้นราคาถูกลงมากกว่าแต่ก่อน และต้นทุนในการผลิตอุปกรณ์ก็ต่ำลงและเทคโนโลยีก็ก้าวหน้ามากขึ้น แม้กระทั่งตัว NAND Flash เอง จะเห็นได้ว่าจากแต่ก่อนที่ NAND Flash ตัวนึงจะมีความจะุเพียง 32 - 64MB แต่ในปัจจุบันสามารถกระโดดไปได้ถึง 128GB แล้ว (โอ้วววว มันต่างกันมากจริงๆ) เพราะแบบนี้อีกไม่นานเราคงจะได้สัมผัส SSD 1TB ในราคาที่พอหยิบจับกันได้ (โดยที่ไม่ต้องเป็นหนี้มากนัก 5555+)





รูปนี้คือ Nand Flash ที่อยู่ใน USB Flash Drive



ส่วนภาพนี้เป็นเนื้อใหนของ SSD จะเห็นได้ว่ามี NAND Flash วางเรียงกันสวยงามหลายตัว

      จากที่กล่าวมา (เริ่มเหนื่อย...) หลายคนอาจจะมองเห็นได้ว่าเทคโนโลยีของ SSD นั้น จะไปต่อได้อีกไกล ในขณะที่ ฮาร์ดดิสแบบเดิมเริ่มจะหยุดการพัฒนา(หรือใกล้จะถึงจุดอิ่มตัว หรือ ทางตันนั่นเองแล้ว) แต่กยังเชื่อว่า ฮาร์ดดิสแบบเดิมจะยังอยู่กับเราไปอีกนานเช่นกัน

สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่ยังใช้ฮาร์ดดิสแบบเดิมอยู่ก็จงสบายใจได้ว่ามันยังมีขายให้เราหาซื้อมาใช้อีกนาน
แต่ใครไม่เดือดร้อน ขัดสนการเงิน(อย่างผม ^__^) ก็จะหาซื้อมาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพของเครื่อง PC หรือ Notebook ให้กับเราก็จะดีมากมาย

สำหรับบทความแรก เนื้อหาสาระจะน้อย หรือผิดพลาดก็ขออภัยไว้ก่อน(ออกตัว 5555+ ) ยังไงก็จะพยายามปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นครับ 

by ITแมงกะจั๊ว







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น